การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์
อาณาจักร Animalia
ไฟลัม Chordata
ชั้น Actinopterygii
อันดับ Characiformes
วงศ์ Characidae
วงศ์ย่อย Serrasalmidae
สกุล Pristobrycon
Pygocentrus
Pygopristis
Serrasalmus
Catoprion
ปิรันยา หรือ ปิรันฮา (อังกฤษ: Piranha) เป็นชื่อสามัญเรียกปลาน้ำจืดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งอยู่ในวงศ์ย่อย Serrasalmidae ในวงศ์ปลาคาราซิน (Caracidae) โดยทั่วไป ปลาที่ได้ชื่อว่า "ปิรันยา" นั้นจะหมายถึงปลาในสกุล Pristobrycon, Pygocentrus, Pygopristis และ Serrasalmus แต่ก็อาจรวมถึงปลาในสกุล Catoprion ด้วย ส่วนปลาในสกุลอื่นมักไม่นิยมเรียกว่าปิรันยา ถึงแม้จะอยู่ในวงศ์ย่อยนี้ก็ตาม
ปลาปิรันยากินเนื้อเป็นอาหาร มักอยู่รวมกันเป็นฝูงขนาดใหญ่ พบในแม่น้ำอเมซอน ทวีปอเมริกาใต้ มีฟันที่แหลมคมกินเนื้อของสัตว์ที่ตกลงไปอยู่ใกล้ที่อยู่ของมันเป็นอาหาร แต่ถ้าไม่มีสัตว์อะไรเลยตกลงไปในที่อยู่ของมันมันก็จะกินปลาในแม่น้ำเป็นอาหาร เป็นปลาที่อันตรายชนิดหนึ่ง ที่ทั่วโลกรู้จักดี ชนิดที่ดุร้ายมาก ได้แก่ ปิรันยาแดง (Pygocentrus nattereri) ฯลฯ บางประเทศ เช่น ประเทศไทยห้ามนำเข้า เพราะเกรงจะแพร่ลงสู่แหล่งน้ำและขยายพันธุ์ แต่บางประเทศ เช่น ประเทศญี่ปุ่นอนุญาตให้เลี้ยงเป็นปลาสวยงามได้
แต่ในพื้นถิ่นแล้ว คนพื้นเมืองนิยมกินปลาปิรันยาเป็นอาหาร และปลาปิรันยาเองก็มักตกเป็นอาหารของสัตว์ที่มีขนาดใหญ่กว่า เช่น ปลาอะราไพม่า (Arapaima gigas) , นากยักษ์ (Pteronura brasiliensis) , โลมาแม่น้ำอเมซอน (Inia geoffrensis) และนกกินปลาอีกหลายชนิด
ปลาชนิดอื่นซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับปลาปิรันยา แต่ไม่มีความดุร้ายเท่าและสามารถกินได้ทั้งพืชและสัตว์ คือ ปลาเปคู (Pacu) หรือ ปลาคู้ ซึ่งในประเทศไทยถือเป็นปลาเศรษฐกิจและปลาสวยงามด้วย เช่น ปลาคู้ดำ (Colossoma macropomum) และ ปลาคู้แดง (Piaractus brachypomus) เป็นต้น
การแพร่กระจายพันธุ์
ปลา ปิรันย่า นั้นพบในลุ่มแม่น้ำอเมซอน: ใน โอริโนโค (Orinoco), ในแม่น้ำของกีอาน่า (Guyana), ในปารากวัย-ปารานา (Paraguay-Parana), และในระบบแม่น้ำเซาฟรังซีสกู (Sao Fransico) มีบางชนิดที่มีการแพร่กระจายเป็นวงกว้าง แต่ในทางตรงข้ามก็มีบางชนิดที่มีการแพร่ะกระจายอยู่ในวงจำกัด. อย่างไรก็ตาม ปิรันย่า ได้เคยถูกนำเข้าไปยังสหรัฐอเมริกา, มีบางครั้งบางคราวที่ถูกพบใน แม่น้ำโปโตแม็ค (Potomac RIver) แต่ก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ในสภาพหนาวจัดของบริเวณนั้น. จนเมื่อไม่นานมานี้ ปิรันย่า ได้ถูกจับได้โดยชาวประมงใน แม่น้ำคาทาวบา (Catawba RIver) ใน North Carolina นี่เป็นกรณีแรกใน North Carolina. ปลาปิรันย่าได้ถูกพบอีกครั้งที่ทะเลสาปแคปไต (Kaptai Lake) ในตะวันออกเฉียงใต้ของบังคลาเทศ
ลักษณะของปลาปิรันย่า
ลักษณะทั่วไปของปลาปิรันยา มีลำตัวแบนข้าง ส่วนท้องกว้าง บางชนิดมีจุดสีน้ำตาลและสีดำ บางชนิดข้างลำตัวส่วนล่างสีขาว, สีเหลืองและสีชมพู แล้วแต่ละชนิดแตกต่างออกไป
ปลาปิรันย่า โดยปกติมีขนาดตั้งแต่ 15-25 ซม. (6-10 นิ้ว) ในบางชนิดพบว่ามีขนาดถึง 41 ซม. (24 นิ้ว) เลยทีเดียว
ปลา ปิรันย่าในสกุล Serrasalmus, Pristobrycon, Pygocentrus, และ Pygopristis สามารถจำแนกได้ง่ายมาก โดยดูจากลักษณะเฉพาะของฟัน. ปลาปิรันย่าทั้งหมด มีฟันที่มีความคมเรียงกันเป็นแถวเดียวบนขากรรไกรทั้ง 2 ข้าง; ฟันเหล่านั้นจะเรียงตัวกันแน่นเป็นระเบียบและเชื่อมต่อกัน เพื่อใช้ในการกัดและฉีกอย่างรวดเร็ว. ฟันที่มีลักษณะเฉพาะของมันจะมีรูปแบบเป็นทรงสามเหลี่ยม คล้ายใบมีด.ฝีปากล่างยื่นออกมายาวมากกว่าริมฝีปากบน แต่เมื่อหุบปากจะปิดสนิทระหว่างกันพอดี ปลาปิรันย่าส่วนใหญ่จะมีฟันเขี้ยวแบบสามเหลี่ยมที่มีขนาดใหญ่ ยกเว้นในสกุล Pygopristis จะมีฟันเขี้ยวแบบห้าเหลี่ยม และ ฟัน premaxillary มีอยู่ด้วยกัน 2 แถว ซึ่งจะพบได้ในปลาส่วนใหญ่ใน วงศ์ย่อย (Subfamily) Serrasalminae
นิเวศน์วิทยา
ปลาปิรันย่า เป็นส่วนประกอบที่สำคัญเป็นอย่างมากของ สภาพแวดล้อมตามธรรมชาติ. อย่างไรก็ตามในอาณาเขตที่มีขนาดใหญ่ไปจนถึง พื้นที่ลุ่มที่มีการระบายน้ำได้ดี, ปลาปิรันย่ามีการแพร่กระจายและเป็นวงกว้าง และ แหล่งที่อาศัยมีความหลากหลายอยู่ได้ทั้งสภาพแวดล้อมที่เป็น แหล่งน้ำไหล (Lotic) และ แหล่งน้ำนิ่ง (Lentic). ปลาปิรันย่า บางชนิดมีจำนวนมากในบางพืิ้นที่ และ ในหลายๆชนิด อาศัยอยู่รวมกัน. ซึ่งเป็นได้ทั้งผู้ล่า (Predators) และผู้กินซาก (Scarvengers).
อาณาจักร Animalia
ไฟลัม Chordata
ชั้น Actinopterygii
อันดับ Characiformes
วงศ์ Characidae
วงศ์ย่อย Serrasalmidae
สกุล Pristobrycon
Pygocentrus
Pygopristis
Serrasalmus
Catoprion
ปิรันยา หรือ ปิรันฮา (อังกฤษ: Piranha) เป็นชื่อสามัญเรียกปลาน้ำจืดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งอยู่ในวงศ์ย่อย Serrasalmidae ในวงศ์ปลาคาราซิน (Caracidae) โดยทั่วไป ปลาที่ได้ชื่อว่า "ปิรันยา" นั้นจะหมายถึงปลาในสกุล Pristobrycon, Pygocentrus, Pygopristis และ Serrasalmus แต่ก็อาจรวมถึงปลาในสกุล Catoprion ด้วย ส่วนปลาในสกุลอื่นมักไม่นิยมเรียกว่าปิรันยา ถึงแม้จะอยู่ในวงศ์ย่อยนี้ก็ตาม
ปลาปิรันยากินเนื้อเป็นอาหาร มักอยู่รวมกันเป็นฝูงขนาดใหญ่ พบในแม่น้ำอเมซอน ทวีปอเมริกาใต้ มีฟันที่แหลมคมกินเนื้อของสัตว์ที่ตกลงไปอยู่ใกล้ที่อยู่ของมันเป็นอาหาร แต่ถ้าไม่มีสัตว์อะไรเลยตกลงไปในที่อยู่ของมันมันก็จะกินปลาในแม่น้ำเป็นอาหาร เป็นปลาที่อันตรายชนิดหนึ่ง ที่ทั่วโลกรู้จักดี ชนิดที่ดุร้ายมาก ได้แก่ ปิรันยาแดง (Pygocentrus nattereri) ฯลฯ บางประเทศ เช่น ประเทศไทยห้ามนำเข้า เพราะเกรงจะแพร่ลงสู่แหล่งน้ำและขยายพันธุ์ แต่บางประเทศ เช่น ประเทศญี่ปุ่นอนุญาตให้เลี้ยงเป็นปลาสวยงามได้
แต่ในพื้นถิ่นแล้ว คนพื้นเมืองนิยมกินปลาปิรันยาเป็นอาหาร และปลาปิรันยาเองก็มักตกเป็นอาหารของสัตว์ที่มีขนาดใหญ่กว่า เช่น ปลาอะราไพม่า (Arapaima gigas) , นากยักษ์ (Pteronura brasiliensis) , โลมาแม่น้ำอเมซอน (Inia geoffrensis) และนกกินปลาอีกหลายชนิด
ปลาชนิดอื่นซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับปลาปิรันยา แต่ไม่มีความดุร้ายเท่าและสามารถกินได้ทั้งพืชและสัตว์ คือ ปลาเปคู (Pacu) หรือ ปลาคู้ ซึ่งในประเทศไทยถือเป็นปลาเศรษฐกิจและปลาสวยงามด้วย เช่น ปลาคู้ดำ (Colossoma macropomum) และ ปลาคู้แดง (Piaractus brachypomus) เป็นต้น
การแพร่กระจายพันธุ์
ปลา ปิรันย่า นั้นพบในลุ่มแม่น้ำอเมซอน: ใน โอริโนโค (Orinoco), ในแม่น้ำของกีอาน่า (Guyana), ในปารากวัย-ปารานา (Paraguay-Parana), และในระบบแม่น้ำเซาฟรังซีสกู (Sao Fransico) มีบางชนิดที่มีการแพร่กระจายเป็นวงกว้าง แต่ในทางตรงข้ามก็มีบางชนิดที่มีการแพร่ะกระจายอยู่ในวงจำกัด. อย่างไรก็ตาม ปิรันย่า ได้เคยถูกนำเข้าไปยังสหรัฐอเมริกา, มีบางครั้งบางคราวที่ถูกพบใน แม่น้ำโปโตแม็ค (Potomac RIver) แต่ก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ในสภาพหนาวจัดของบริเวณนั้น. จนเมื่อไม่นานมานี้ ปิรันย่า ได้ถูกจับได้โดยชาวประมงใน แม่น้ำคาทาวบา (Catawba RIver) ใน North Carolina นี่เป็นกรณีแรกใน North Carolina. ปลาปิรันย่าได้ถูกพบอีกครั้งที่ทะเลสาปแคปไต (Kaptai Lake) ในตะวันออกเฉียงใต้ของบังคลาเทศ
ลักษณะของปลาปิรันย่า
ลักษณะทั่วไปของปลาปิรันยา มีลำตัวแบนข้าง ส่วนท้องกว้าง บางชนิดมีจุดสีน้ำตาลและสีดำ บางชนิดข้างลำตัวส่วนล่างสีขาว, สีเหลืองและสีชมพู แล้วแต่ละชนิดแตกต่างออกไป
ปลาปิรันย่า โดยปกติมีขนาดตั้งแต่ 15-25 ซม. (6-10 นิ้ว) ในบางชนิดพบว่ามีขนาดถึง 41 ซม. (24 นิ้ว) เลยทีเดียว
ปลา ปิรันย่าในสกุล Serrasalmus, Pristobrycon, Pygocentrus, และ Pygopristis สามารถจำแนกได้ง่ายมาก โดยดูจากลักษณะเฉพาะของฟัน. ปลาปิรันย่าทั้งหมด มีฟันที่มีความคมเรียงกันเป็นแถวเดียวบนขากรรไกรทั้ง 2 ข้าง; ฟันเหล่านั้นจะเรียงตัวกันแน่นเป็นระเบียบและเชื่อมต่อกัน เพื่อใช้ในการกัดและฉีกอย่างรวดเร็ว. ฟันที่มีลักษณะเฉพาะของมันจะมีรูปแบบเป็นทรงสามเหลี่ยม คล้ายใบมีด.ฝีปากล่างยื่นออกมายาวมากกว่าริมฝีปากบน แต่เมื่อหุบปากจะปิดสนิทระหว่างกันพอดี ปลาปิรันย่าส่วนใหญ่จะมีฟันเขี้ยวแบบสามเหลี่ยมที่มีขนาดใหญ่ ยกเว้นในสกุล Pygopristis จะมีฟันเขี้ยวแบบห้าเหลี่ยม และ ฟัน premaxillary มีอยู่ด้วยกัน 2 แถว ซึ่งจะพบได้ในปลาส่วนใหญ่ใน วงศ์ย่อย (Subfamily) Serrasalminae
นิเวศน์วิทยา
ปลาปิรันย่า เป็นส่วนประกอบที่สำคัญเป็นอย่างมากของ สภาพแวดล้อมตามธรรมชาติ. อย่างไรก็ตามในอาณาเขตที่มีขนาดใหญ่ไปจนถึง พื้นที่ลุ่มที่มีการระบายน้ำได้ดี, ปลาปิรันย่ามีการแพร่กระจายและเป็นวงกว้าง และ แหล่งที่อาศัยมีความหลากหลายอยู่ได้ทั้งสภาพแวดล้อมที่เป็น แหล่งน้ำไหล (Lotic) และ แหล่งน้ำนิ่ง (Lentic). ปลาปิรันย่า บางชนิดมีจำนวนมากในบางพืิ้นที่ และ ในหลายๆชนิด อาศัยอยู่รวมกัน. ซึ่งเป็นได้ทั้งผู้ล่า (Predators) และผู้กินซาก (Scarvengers).
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น