แมลงกระชอน
ชื่อสามัญ : แมลงกระชอน
Common Name : Mole cricket
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Gryllotalpa africana Beauvois
Order : Orthoptera
Family : Gryllotalpidae
ลักษณะทางกายภาพ
ลักษณะลำตัวของแมลงกระชอนมีสีน้ำตาล ส่วนหัวมีสีดำกว่าส่วนอื่นๆ หนวดสั้นเป็นแบบเส้นด้าย ปากเป็นแบบปากกัด แผ่นสันหลังอกแรกมีลักษณะเป็นแผ่นกลมแข็ง ร่างกายมีขนปกคลุม ขาหน้าค่อนข้างแข็งแรง ลักษณะแผ่กว้างและมีหนามแหลม เหมาะสำหรับการขุดดิน ปีกมีสีน้ำตาลยาวกว่าความยาวของลำตัว ไม่สามารถมองเห็นอวัยวะวางไข่จากภายนอก แมลงกระชอนตัวผู้สามารถทำเสียงได้โดยใช้ปีกคู่หน้าสีกัน แต่เสียงไม่ค่อยกังวานเท่าที่ควร แมลงชนิดนี้ไม่กระโดด มีการออกหากินในเวลากลางคืน ขนาดของลำตัวยาวประมาณ 25-35 มิลลิเมตร
ชื่อสามัญ : แมลงกระชอน
Common Name : Mole cricket
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Gryllotalpa africana Beauvois
Order : Orthoptera
Family : Gryllotalpidae
ลักษณะทางกายภาพ
ลักษณะลำตัวของแมลงกระชอนมีสีน้ำตาล ส่วนหัวมีสีดำกว่าส่วนอื่นๆ หนวดสั้นเป็นแบบเส้นด้าย ปากเป็นแบบปากกัด แผ่นสันหลังอกแรกมีลักษณะเป็นแผ่นกลมแข็ง ร่างกายมีขนปกคลุม ขาหน้าค่อนข้างแข็งแรง ลักษณะแผ่กว้างและมีหนามแหลม เหมาะสำหรับการขุดดิน ปีกมีสีน้ำตาลยาวกว่าความยาวของลำตัว ไม่สามารถมองเห็นอวัยวะวางไข่จากภายนอก แมลงกระชอนตัวผู้สามารถทำเสียงได้โดยใช้ปีกคู่หน้าสีกัน แต่เสียงไม่ค่อยกังวานเท่าที่ควร แมลงชนิดนี้ไม่กระโดด มีการออกหากินในเวลากลางคืน ขนาดของลำตัวยาวประมาณ 25-35 มิลลิเมตร
แหล่งที่อยู่อาศัย
มันจะชอบขุดรูอาศัยอยู่ในดินที่แฉะมากๆ ตามบริเวณรอบแหล่งน้ำ เช่น โคลน ตม หรือบางครั้งอาจพบขุดดินอาศัยอยู่ใต้แหล่งน้ำตื้น รูที่อาศัยจะลึกลงดินประมาณ 15-20 เซนติเมตร ซึ่งสังเกตได้จากลักษณะทางเข้าออก ส่วนบริเวณระหว่างกลางจะทำเป็นห้องขนาดโตเท่าไข่ ไก่ จากนั้นมันจะอาศัยอยู่ในบ้านใต้ดินตลอดเวลา
มันจะชอบขุดรูอาศัยอยู่ในดินที่แฉะมากๆ ตามบริเวณรอบแหล่งน้ำ เช่น โคลน ตม หรือบางครั้งอาจพบขุดดินอาศัยอยู่ใต้แหล่งน้ำตื้น รูที่อาศัยจะลึกลงดินประมาณ 15-20 เซนติเมตร ซึ่งสังเกตได้จากลักษณะทางเข้าออก ส่วนบริเวณระหว่างกลางจะทำเป็นห้องขนาดโตเท่าไข่ ไก่ จากนั้นมันจะอาศัยอยู่ในบ้านใต้ดินตลอดเวลา
กระทั่งถึงเวลายามค่ำ คืนจึงขึ้นมาเพื่อหารากไม้ แมลงอื่นๆ ที่เล็กกว่า รวมทั้งยอดข้าวของโปรดกินเป็นอาหาร ซึ่งเป็นการสร้างความเสียหายให้เกษตรกร ดังนั้นพวกมันจึงถูก "ไล่ล่า" และกลายเป็นอาหารอัน "โอชะ" และหนึ่งในนักล่าเล่าให้ "หลายชีวิต" ฟังว่า หากรู้ว่าบริเวณท้องทุ่งไหนมีแมลงกระชอนระบาด ชาวบ้านก็หิ้วกระป๋อง ถัง กะละมัง แล้วแต่ว่าจะหาได้ เพื่อไปจับอย่างครื้นเครง เสมือนหนึ่งว่ากำลังมีงานรื่นเริง ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะว่ามันมีราคาซื้อขายเตะโด่งไปที่กิโลฯละ 80-120 บาท.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น